นายแพทย์วีรฉัตร กิตติรัตนไพบูลย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านบรรจุภัณฑ์ บริษัทบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กล่องโฟมที่ใช้ตามท้องตลาดทั่วไป หรือ Styrofoam นั้นผลิตมาจากของเสียเหลือทิ้งสีดำจากกระบวนการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม  ประกอบด้วยสารสไตรีน (Styrene) ซึ่งมีโครงสร้างโมเลกุลคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ในเพศหญิง ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งตัวร้ายแบบที่คุณไม่รู้ตัว

นั่นหมายถึงหากเจ้าสารสไตรีนสะสมอยู่ในร่างกายของเราเป็นเวลานานอาจก่อให้เกิดมะเร็งได้!! โดยคนที่รับประทานอาหารจากกล่องโฟมอย่างน้อยวันละ 1 มื้อ ติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี จะทำให้มีความเสี่ยงโรคมะเร็งสูงกว่าคนปกติถึง 6 เท่าเลยทีเดียว

นอกจากนี้กล่องโฟมยังไม่ย่อยสลายตามกระบวนการธรรมชาติ เป็นตัวร้ายเพิ่มขยะ ทำลายสิ่งแวดล้อม และการทำลายกล่องโฟมยังก่อให้เกิดมลพิษอีกด้วย

กล่องอาหารกระดาษ ทางเลือกของคนรุ่นใหม่สาย eco

ด้วยสาเหตุที่กล่าวมาทั้งหมดนี่เองที่ทำให้หลายคนเริ่มเห็นความสำคัญของการกลับมารักสุขภาพและรักสิ่งแวดล้อมด้วยการผลิตบรรจุภัณฑ์นวัตกรรมใหม่อย่างกล่องอาหารกระดาษ ซึ่งเป็นกล่องกระดาษใส่อาหารแบบไม่ต้องกังวลเรื่องการหกเลอะเทอะเปรอะเปื้อน ใช้ได้ดีไม่แพ้กล่องโฟม นอกจากนี้ยังดีต่อสุขภาพมากกว่าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

กล่องกระดาษโดยทั่วไปมีระยะเวลาย่อยสลายตามธรรมชาติอยู่ที่ประมาณ 5 ปี แต่อาจเร็วกว่านั้นหากนำไปเข้ากระบวนการรีไซเคิล ซึ่งเจ้ากล่องอาหารกระดาษก็สามารถนำไปรีไซเคิลได้โดยที่ไม่ก่อให้เกิดสารพิษหรือมลพิษระหว่างเข้ากระบวนการ จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า และที่สำคัญกล่องอาหารกระดาษยังไม่ทำให้เกิดภาวะขยะล้นโลกด้วยนะ

ส่วนใครที่กังวลเรื่องสารพิษหรือสารเคมีเมื่อนำกล่องอาหารกระดาษมาบรรจุอาหารทั้งร้อนและเย็นล่ะก็ ขอบอกว่าสบายใจได้เลยเพราะไม่มีสารพิษตกค้าง สารก่อมะเร็ง หรือสารเคมีอื่นๆ ที่ทำร้ายสุขภาพเหมือนกล่องโฟม

ถึงแม้ว่าความทนทานของกล่องอาหารกระดาษจะน้อยกว่ากล่องที่ทำจากโฟม แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน นวัตกรรมกล่องกระดาษใส่อาหารจึงก้าวหน้าไปมาก สามารถบรรจุได้ทั้งอาหารและเครื่องดื่มแบบไม่ต้องกลัวอาหารจะเสียหาย แต่ที่แน่ๆ คือ ทั้งเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเรื่องที่ดีต่อสุขภาพ กล่องอาหารกระดาษนั้นชนะเลิศ! ถือเป็นทางเลือกใหม่ในวันที่กล่องโฟมกลายเป็นตัวร้ายอย่างแท้จริง